ผมชอบชักว่าวครับ
5 โมงเย็น...เลิกเรียนแล้ว.
วันนี้ผมกลับบ้านด้วยความสบายใจ.
อืม...ก่อนกลับบ้านแวะไปเล่นว่าวที่สนามหลวงดีกว่า.
อันที่จริงตอนนี้สาย
60 ว่างดี.
แต่ผมยังไม่อยากกลับบ้าน.
สนามหลวงคึกคักตามปกติ
ลมเย็น...ส้มตำ เสื่อปู.
โค๊กใส่ถุง...แดดอ่อนๆ ผมหนีบว่าวปักเป้าไว้กับกระดานดรออิ้ง.
ทำไมผมไม่เล่นว่าวจุฬานะเหรอครับ ?...อืม...ยากนะคุณ.
ไม่ไหวหรอก...ยิ่งพวกเซียนๆ ที่ทำป่านมาเอง.
ประเภทบดแก้วทากาวนี่เยอะ...ผมไม่ซ่าด้วยหรอก.
ขอแค่ให้อีปักเป้ากินลมผมก็พอใจ.
ใต้ต้นมะขาม
ผมวางกระเป๋า...ซื้อโค๊กใส่ถุง.
เตรียมดูดให้ชื่นใจ...
"เฮ้ย!...มึงอยู่ที่ไหนวะไอ้สัตว์"...
ผมหันไปมองด้วยดวงตาขุ่นมัว.
ด้วยรู้สึกหน้าชาที่ใครต่อใครหันมามอง...
........................................
เด็กนาฏศิลป์คนนั้นน่ารักจังเลย.
ผมอยากมีแฟนอย่างนั้นมั่งจัง.
........................................
"ไอ้สัตว์...หูแตกเหรอไอ้ควาย
!!!"...
ผมถูกต่อยครึ่งปากครึ่งจมูก.
เลือดกำเดาพุ่ง...ปากฉีก...ผมล้มลงไปกองกับพื้น.
ถุงโค๊กตกแตก...ผมยังไม่ได้ดูดซักอึก.
ผ ม ลุ
ก ไ ด้ . . . ถ้ า จ ะ ลุ ก .
แต่ผมเลือกที่จะนอนกุมจมูกอยู่กับที่.
"ขอนะไอ้สัตว์"...
เขาหยิบปากการ็อตตริ้งของผมไป.
อีกคนเปิดกระดานดรออิ้ง...เขาดูรูป...ดูว่าวของผม.
"ไอ้สัตว์...เด็กศิลป์นี่หว่า"...
คุณนึกว่าผมเป็นใครล่ะครับ.
"ซวยไปนะไอ้เหี้ย"...
เขาเดินไปแล้ว...
ผมยันกายขึ้นมานั่ง...ควักผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดปาก.
ป้าคนขายน้ำขยับปากพูด แต่ผมไม่ได้ยินอะไร.
........................................
เด็กนาฏศิลป์คนนั้นน่ารักจังเลย.
ผมดีใจที่คุณมองผมนะครับ...ถึงคุณจะหน้าตาตื่นก็เถอะ.
........................................
ผมเก็บของ...เดินลัดสนามไปอีกฟาก.
ผมซื้อโค๊กอีกถุงนึง...เลือดเปรอะเสื้อ.
ผมเจ็บจมูกมากกว่าปาก.
โครงว่าวไม่หัก...
ผมนั่งลง เช็คคอซุง...ดูดโค๊ก...
อมน้ำแข็งทั้งก้อนไว้ในปาก...
วั น นี้
ว่ า ว กิ น ล ม ดี ค รั บ .
นิดหน่อย
:
บันทึกเมื่อ 26 สิงหาคม 2543 : 16.50 น.
หมายเหตุ
:
มีหลายเรื่องเลยนะครับ ที่ผมไม่เข้าใจ... โดยเฉพาะความคิดของคน.
ผมไม่ได้คิดจะให้อะไรเปลี่ยนหรอกครับ...ผมว่ามันเป็นประเพณีปฏิบัติ
|