นิทานโบราณเกี่ยวกับสุนัข  
              สุนัขของโปรคริส  นิทานโบราณที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางที่สุดคือเรื่องเกี่ยวกับเทพะดาล่าสัตว์โสดชื่อ ไดอาน่าและสุนัขของโปรคริส ตามความเชื่อในศตวรรษที่  5  สุนัขตัวนี้เป็นต้นกำเนิดของโมลอสเซียน ฮาวด์ และปาร์ต้าโปรคริสเป็นเพื่อนรักของเทพธิดาไดอาน่า มีสามีชื่อเซฟาลัส ไดอาน่าได้ให้สุนั ขและหอกแก่โปรคริส สุนัขที่ให้ล่านี้ล่าสัตว์ได้แก่งมาก ส่วนหอกก็พุ่งได้แม่นยำ ของขวัญนี้โปรคริสได้มอบให้สามีเธอ เซฟาลัส
ชอบการล่าสัตว์มีความสุขกับภรรยาและสมบัติของเขาตามเรื่องในนิทานมีพระเจ้าอารมณ์ร้ายองค์หนึ่งได้ส่ง
สุนัขจิ้งจอกที่ดุร้ายมารังควาญชาวบ้านในชนบท สีแลปส์เป็นชื่อสุนัขที่รู้จักกันดีกว่าต่อสู้เก่งมาก ดั้งนั้นชาวบ้าน
จึงไปหาเซฟาลัสเพื่อจะขอยืมสุนัขลีแลปส์ไปกำจัดสุนัขจิ้งจอกขณะที่ดมตามรอยก็ได้กลิ่นสุนัขจิ้งจอก 
ลีแลปจึงเริ่มออกความเร็วสุงมาก จนสายตาไม่สามารถมองตามเห็นได้ ชาวบ้านจึงเชื่อว่าเขาบินผ่านไปในอากาศ
ถึงแม้ว่าเท้าของเขาจะเหยียบพื้นก็ตามด้วยความสามรถของสุนัขจิ้งจอก สุนัขลีแลปส์ก็ไม่สามารถตะปบสุนัข
จิ้งจอกได้ แต่พอเซฟาทำท่าจะพุ่งหอกเท่านั้น ทั้งสุนัขจิ้งจอกและสุนัขลีแลปส์หยุดพร้อม ๆ กันเนื่องจาก
พระเจ้าไม่ปรารถนาจะให้ใครชนะหรือจะให้กลายเป็นหิน ท่านจึงปล่อยให้เขาทั้งสองมีอากัปกิริยาชอบ
ชีวิตการวิ่งไล่ต่อไป นิทานที่เล่าต่อไปจากนี้คือ วัลแคน เป็นผู้สร้างสุนัขเกรย์ฮาวด์ตัวแรกชื่อ ลีแลปส์ วัลแคนฅฅ
ให้สุนัขลีแลปส์กับจูปีเตอร์ จูปีเตอร์ให้ยูโรป้า ยูโรป้าให้ไมน้อส ไมน้อสให้เป็นของขวัญต่อโปรคริส โปรคริสให้
เซฟาลัสต่อ ในเรื่องเขียนกล่าวถึงสุนัขตัวนี้ว่า เป็นสุนัขที่เก่งมาก สามารถล่าสัตว์ได้ทุกชนิด เช่นเดียวกับความเก่ง
ของสนัขจิ้งจอกทิวมีเซียน เพื่อไม่ให้สับสนระหว่างสัตว์ทั้งสองจูปีเตอร์จึงให้กลายเป็นหินไป ในเรื่องบอกว่า
สุนัขตัวนี้เป็นบรรพบุรุษของสุนัขที่ชอบการต่อสู้ และสุนัขเลี้ยงแกะที่รู้จักในชื่อสุนัขโมลอสซัส

เซอร์บีรัส  นิทานกรีกโบราณมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสุนัขดังนี้ สุนัขเซอร์บีรัส พลูโต ถูกมอบหมายรับผิดชอบงาน
หนักมากคือ ควบคุมวิญญารณคนตายไม่ให้หนีออกมาจากนรก เซอร์บีรัสทำหน้าที่ได้ดีมากแต่พลูโตทำงานไม่ดี จึงเปลี่ยนให้ซาตานมาทำหน้าที่แทน เซอร์บีรัสถูกมอบให้ทำงานต่อโดยเฝ้านรกชั้นที่ สาม

สุนัขเฝ้าวิญญาณ  ชาวกรีกโบราณเชื่อว่าสุนัขสามารถช่วยพวกเขาจากอันตรายต่าง ๆ ได้แล้ว ยังช่วยปกป้องจาก
วิญญาณชั่วร้ายต่าง ๆ ได้อีก เมื่อใครเชื่อว่าจะเป็นโรควิกลจริต เขาจะแบะสุนัขติดตัวไปตลอดที่เขาจะไปไหน เพราะเขามีความเชื่อว่าสุนัขจะช่วยป้องกันไม่ให้วิญญาณชั่วร้ายมาทำอันตรายสมองเขา

สุนัขที่เกี่ยวกับอาดามและอีฟ  นิทานเรื่องนี้กำเนิดในประเทศอินเดียว่า พระเจ้าสร้างอาดามและอีฟ ในตอนกลางคืน มีงูใหญ่มากินอาดามและอีฟ ทำให้พระเจ้าโกรธมากแต่ท่านก็สร้างขึ้นมาใหม่ ในคืนที่สองเหตุการณ์ก็เป็นเช่น
เดียวกัน พระเจ้าก็ยังไม่ละความพยายาม แต่คราวนี้สร้างสุนัขขึ้นมาด้วยเพื่อปกป้องอาดามและอีฟ งูใหญ่ปรากฎ
อีกในคืนต่อมา แต่ถูกไล่ออกไปจากการเห่าอย่างดุร้ายของสุนัข ด้วยเหตุนี้ชาวอินเดียจึงมีความเชื่อว่า เมื่อสุนัข
หอนจะมีคนกำลังตาย

อาร์กัส  นิทานเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงที่สสุดเรื่องหนึ่ง คือ สุนัขของยูลีสซีส ชื่ออาร์กัส ซึ่งในช่วงชีวิตเยาว์วัยมีความสุข
ในการล่าสัตว์ทั้งวันกับยูลีสซีส ในระยะหลังยูลีสซีสจะต้องเดินทางไปไกล จึงปล่อยให้สนัขอาร์กัสอยู่ลำพัง ประมาณสิบปีต่อมา ยูลีสซีสกลับมาที่เดิมโดยแปลงตัวเป็นขอทานไม่มีใครจำเขาได้ เมื่อเขาเข้าไปในปราสาท
เข้าก็ตรงไปหาสนัขอาร์กัสซึ่งผอมโซมาก ที่นอนของสุนัขอาร์กันเต็มไปด้วยอุจจาระกองทับถมกัน เขาจำเสียง
ของนายได้จึงคลายเข้าไปหา อาร์กัสพยายามจะเข้าไปเลียมือของยูลีสซีสแต่ไม่มีแรงที่จะทำเช่นนั้น จึงขาดใจ
ตายอยู่ที่เท้านายของยูลีสซีสโศกเศร้าเสียใจมากที่เสียเพื่อนซึ่งไม่เคยลืมเขาไปเสียแล้ว

ความชื่อสัตย์ของสุนัข พลินี่ ติตัส ชาบินัส และพวกทาสทั้งหมดของเขาจะถูกตัดสินประหารชีวิตเนื่องจาก
สมรู้ร่วมคิดกันทำความผิด มีสุนัขของทาคนหนึ่งที่ติดตามเขาเข้าไปถึงในคุก เมื่อนายของเขาถูกประหารแล้ว เขาก็โดดออกไปจากที่กั้นยืนเห่าอยู่ข้างศพที่ล้มลง ผู้ควบคุมสงสารสุนัขที่ชื่อสัตย์ตัวนี้จึงโยนขนมปังไปให้ แทนที่สุนัขจะกินกลับคาบขนมปังไปใส่ปากนายของเขาซึ่งตายแล้ว เมื่อร่างของทาสถูกนำไปไว้ที่ไทเบ้อร์ สุนัขก็โดดตามลงไปแล้ว่ายอยู่ข้างร่างกายของศพที่ลอยอยู่จนกระทั่งจมน้ำตายเพราะหมดแรง ไฮร์คานัส
เป็นสุนัขของกษัตริย์ไลซิมาชัส พระองค์เป็นทหารคนหนึ่งของกษัตริย์อะเล็กซานเด้อร์มหาร ที่ถูกฆ่าตาย
ในสนามรบ สุนัขโศกเศร้าเสียใจมาก เขาเดินตามศพไปตลอดเมื่อนำไปเฝา เขานั่งมองเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้
อยู่ เขาเห่าด้วยเสียงเศร้าโสก และตัดใจกระโดดเข้าไปในกองไฟเพื่อตายตามนาย

การเริ่มต้นของสุนัข เป็นนิทานเก่าแก่ที่เล่าว่า หลังจากพระเจ้าสร้างโลกและสัตว์ทุกชนิดแล้วท่านก็สร้างมนุษย์
เพื่อจะควบคุมสัตว์เหล่านี้ มนุษย์รับเอาอารมณ์โกรธของพระเจ้าไว้ จึงเป็นเหตุให้เกิดมีเหวเพื่อจะแบ่งมนุษย์
และสัตว์โลกออกจากัน ขณะที่เหวค่อย ๆ แยกออกจากกันอย่างช้า ๆ สุนัขก็กระโดดข้ามมาอยู่บนผืนแผ่นดิน
ด้านมนุษย์ ซึ่งตลอดมาตั้งแต่บัดนั้น สุนัขเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ปกป้องคุ้มครองและรับใช้ได้ด้วย

สุนัขในสมัยกษัตริย์ไพร์รัส  เป็นเรื่องเล่าถึงความซื่อสัตย์ของสุนัขทีมีต่อนายเขา ย้อนกลับไป 250 ปีก่อน ค.ศ. ระหว่างกษัติรย์ไพร์รัสครองราชย์ ทานคนหนึ่งของพระองค์ถูกทำร้ายจนโด่นฆ่าตัวตายจากชายสองคน สุนัขของ
ทาสผู้นี้ถูกคนร้ายฆ่าตายด้วยเพราะช่วยปกป้องนายของเขา ซากสุนัขยังอยู่บนถนน เมื่อกษัตริย์ไพร์รัสผ่านไปพบ
จึงสั่งการให้นำไปฝังและสั่งการให้นำสุนัขที่ชื่อสัตย์จงรักภักดีไปเลี้ยงในพระราชวัง หลังจากนั้นสุนัขจึงเป็น
สมาชิกในครอบครัวถาวรตลอดไป วันหนึ่งขณะที่พระองค์กำลังบรรยายสรุปให้ทหารของทานฟัง สุนัขได้กระโดด
วิ่งไล่ทหารสองคน ซึ่งต่อมาได้ยอมรับสารภาพว่าไม่สามารถจะอยู่เป็นทหารต่อไปได้เพราะทนต่อความเคร่งครัด 
ระเบียบวินัย และฝึกหนักไม่ไหว

สุนัขในนิทานอินเดีย  ชาวอินเดียทีมีกระดูกซี่โครงคล้ายสุนัข (ผอม!!) มีนิทานทีเกี่ยวข้องเล่าไว้ดังนี้ ซาพีวี ตามเรื่องที่เล่าเป็นมนุษย์คนแรกในโลก เช่นเดียวกับอาดามถูกสั่งห้ามไม่ให้กินผลไม้บางชนิด ถ้ากินแล้ว
จะเป็นอันตรายได้ ประชาชนมีการทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่เสมอ จึงเป็นเหตุต้องมีการแบ่งชั้นวรรณะ ชาวอินเดีย
คนหนึ่งที่แยกตัวออกมาได้ไปสร้างบ้านที่ริมฝั่งทะเลสาบแลดะนำสุนัขเพศเมียที่ให้ลูกมากไปด้วย สุนัขคลอดลูก
ออกมาเขาก็เลี้ยงอย่างดี จนสุนัขมีขนาดใหญ่เมื่อเขาจะออกไปล่าสัตว์หรือตกปลา เขาจะผูกสุนัขไว้ในเต้นท์ ทุกครั่งที่เขากลับมาเ ขาจะได้ยินเสียงเด็กออกมาจากเต้นท์ แต่เมื่อเขาเข้าไปสำรวจดูก็ไม่พบอะไร นอกจากลูกสุนัข
ที่ล่ามอยู่ เพื่อจะพิสูจน์สิ่งแปลกที่เกิดขึ้นนี้ วันหนึ่งเขาจึงทำแกล้งจะไปตกปลาตามปกติ แล้วซ่อนตัวอยู่ไม่ไกล
พอที่จะมองเห็นได้ หลังจากนี้สักพักเขาก็ได้ยินเสียงเด็กกำลังเล่นกันอยู่ เขาจึงรีบวิ่งมาที่เต้นท์ก็พบเด็กที่น่ารัก
กำลังเล่นและหัวเรากันอย่างเพลิดเพลิน เขาเห็นผิวหนังสุนัขเหล่านั้นวางอยู่ข้างตัวเด็ก จังไปหยิบขึ้นมาและ
ขวางใส่ไปในกองไฟ หลังจากนั้นมาเด็กเหล่านั้นก็เจริญเติบโตเป็นมนุษย์ และเป็นบรรพบุรุษของคนเชื้อสายกระดูก
ซี่โดรงคล้ายสุนัข (ผอม!!) การทำพิธีบูชาวิญญาณคล้ายสุนัขขางเป็นประเพณีที่สำคัญของชาวอินเดีย อิโรคว้อยซ์ที่จัด
ขึ้นทุกปี ชาวอิโรคว้อยซ์เชื่อว่า ตามข้อตกลงของบรรพบุรุษเขาทำกับวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ว่าทุก ๆ ปีจะต้องทำพิธีสังเวย
วิญญาณด้วยสุนัขสีขาวปลอด อันเป็นการระลึกถึงและจงรักภักดีต่อดวงวิญญาณและท่านจะได้เปิดหูฟังการสวด
ขอพรของพวกเขา สุนัขถูกเลือกเพราะเป็นสุนัขที่มีคุณค่ามากที่สุดในความซื่อสัตย์ จงรักภักดี และช่วยทำงาน
ให้กับคน ในระหว่างการทำพิธีฉลองนี้ทุกคนจะไม่มีการโศกเศร้าหรือร้องให้ ในวันทำพิธีทุกคนจะมารวมกัน
ที่บ้านญาติ แต่กายชุดเจ้าเข้าทรงที่สวยงาม หัวหน้าในที่นั้นจะกล่าวนำสรรเสริญวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ ขอบคุณต่อ
ความดีและให้ความรักแก่พวกเขา เมื่อกล่าวจบสุนัขขาวจะถูกนำเข้ามาวางไว้บนโต๊ะยาวสุนัขจะถูกทาสีแดงมาก่อน
ขนสีขาวที่สะอาดของเขาจะติดแน่นกับผิวหนังทุกคนจะยืนล้อมรอบสุนัขและชวยกันผูกริบบิ้นสีทั่วร่างกายของสุนัข
จนในที่สุดแทบจะไม่เห็นตัวสุนัข นอกจากนี้จะผูกเชือกที่แขวนด้วยเครื่องประดับต่าง ๆ เพื่อเป็นบรรณาการ
ต่อวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ เขาจะนำตะกร้าที่ใส่ใบยาสูบซึ่งปลูกเองหรือซื้อมาวางอยู่บนหัวของสุนัขแล้วเริมจุดไฟ จากนี้ก็จะนำสุนัขแบกขึ้นบ่าเดินรอบโต๊ะสองรอบ คนจะแบ่งเป็นสองกลุ่ม ผู้ชายกับผู้หญิง ทั้งหมดจะเดินไปที่ทำ
พิธีสังเวยผู้ชายเดินหน้าผู้หญิงเดินตามหลัง ทุกคนจะกล่าวต่อกระทั่งร่างกายสุนัขและใบยาสูบไหม้เป็นผงแล้ว
แยกย้ายกันกลับ โดยทุกคนจะมีความยินดีต่อไปอีกไม่ต่ำว่าสองวัน

สุนัขของชาวเบอร์เนียวเหนือ  ชาวเบอร์เนียวเหนือมีความเชื่อมานานแล้วว่า สุนัขที่ดุร้ายจะเฝ้าประตูสวรรค์ เพื่อปกป้องนางฟ้าให้เป็นสาวพรหมจารีย์ตลอดไป

นิทานของชาวนิโกร  ชาวนิโกรมักจะได้ฟังนิทานเกี่ยวกับปีศาจและผีสุนัขว่า จะมีสุนัขล่าสัตว์หรือพวกบลัดฮาวด์
ที่ตัวใหญ่มาก ออกมาเดินท่องเที่ยวในคืนเดือนมือและฟ้าคะนอง สุนัขนี้สามารถเปลี่ยนร่างกายได้ตามต้องการ

นิทานเล่าไม่จบของชาวอียิปต์  สมัยอียิปต์ตอนต้นมีนิทานเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับสุนัขคือ "เจ้าหน้าแห่งดูม" ความว่า
กษัตริย์ต้องการจะมีลูกชาย จึงไปสวดอ้อนวอนต่อ ฮาเธอร์ส ซึ่งเป็นเทพธิดาวัวกษัตริย์ได้ตามคำขอ แต่มีข้อจำกัดว่า
ลูกชายจะถูกฆ่าอย่างใดอย่างหนึ่งจาก สุนัข งูใหญ่หรือจรเข้เขาถูกเลี้ยงอย่างดีในหอคอยที่สูงเพื่อป้องอันตราย
ทุกชนิด เมื่อโตเป็นหนุ่มจึงได้รับอนุญาติไปเล่นนอกหอคอย จึงไปพบสุนัข และขอพ่อที่จะมีสุนัขไว้เป็นเพื่อน กษัตริย์ได้ตึกตองและชั่งใจแล้วระหว่างความกลัวและความรักจึงอนุญาตตามคำขอคืนหนึ่งขณะที่เจ้าชายหนุ่มหลับ
อยู่มีงูใหญ่ไต่กำแพงเข้าไปในห้อง สุนัขได้ช่วยเจ้าชายไว้โดยฆ่างูใหญ่ตาย วันต่อมาขณะที่เจ้าชายหนุ่มกำลังอาบอยู่ ก็มีจรเข้จะเข้าทำร้าย สุนัขก็ได้ช่วยชีวิตไว้เช่นเคย แล้วต่อมา….. เนื่องจากกระดาษที่เขียนเรื่องนี้ได้ขาดหายไป ท่าน
ผู้อ่านจะต้องคิดเอาเองว่า ตอนจบของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร……!!