พลังงานลม : พลังแห่งการเดินทาง
ใช้หลักการเดียวกับการใช้กระแสลมหมุนใบพัดแต่เป็นกระแสลมที่ผลักหมุนใบพัดของเครื่องปั่นไฟ
ให้หมุนและเกิดเป็นกระแสไฟฟ้าออกมาในที่สุดซึ่งนับว่าเป็นการผลิตกระแสไฟฟ้าที่เกิดผลกระทบ
ต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดแบบหนึ่งก็ว่าได้เพราะว่าไม่มีการต้มน้ำให้กลายเป็นไอไม่มีการเผาไหม้ให้เกิด
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ประเทศที่มีการใช้พลังงานไฟฟ้าจากลมอย่างกว้าง
ขวางก็คงหนีไม่พ้นสหรัฐอเมริกาและประเทศในแถบยุโรปอย่างเช่น อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์กกดังที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตตั้งสถานีพลังงานทดแทนไว้ที่บริเวณแหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต เพื่อทดสอบการผลิตไฟฟ้าและเก็บข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการพัฒนาการผลิตไฟฟ้าด้วย
พลังงานลมในอนาคต โดยการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังลมมีความเป็นไปได้สูงที่จะใช้ร่วมกับการผลิตไฟฟ้า
ด้วยเซลล์แสงอาทิตย์

พลังงานความร้อนใต้ภพ : ความไม่สงบที่มีประโยชน์

สำหรับพลังงานความร้อนใต้พิภพที่ถูกนำมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้านั้นก็คือแหล่งความร้อนที่เพื่อเเผ่
ความร้อนจากหินหลอมละลายใต้ผิวโลกมายังแหล่งน้ำที่อยู่ในชั้นหินบริเวณใกล้เคียงทำให้
แหล่งน้ำนั้นร้อนจนเดือดพุ่งเปฅ็นน้ำเดือนหรือเป็นไอน้ำขึ้นมาตามรอยแตกของแผ่นดิน ถ้าหากอยู่ใกล้ผิวดินมากพอหรือผิวดินมีช่องแตกให้น้ำเดือดหรือไอน้ำนี้แทรกออกมาได้วก็จะกลาย
เป็นธารน้ำร้อนหรือน้ำพุร้อนพุ่งขึ้นมาให้เรได้เห็นแต่การใช้ไอน้ำร้อนหรือน้ำร้อนจากภายใต้พื้นโลก
มาผลิตกระแสไฟฟ้านั้นพึ่งเริ่มขึ้นเมื่อปี 2447 ในประเทศอิตาลีถูกกักเก็บในถังเก็บไอน้ำร้อนก่อนที่จะ
ถูกปั้มไปยังเครื่องกำเนิดไฟฟา ส่วนไอน้ำร้อนนั้นจะถูกทำให้ควบแน่นกลายเป็นไอน้ำที่ยังคงมีอุณหภูมิ
สูงอยู่จึงต้องผ่านบ่อพักน้ำเพื่อลดอุณหภูมิหรือใช้ประโยชน์กลายเป็นห้องอาบน้ำแร่หลังจากที่ปล่อยให้
น้ำที่มาจากกระบวนการผลิตไฟฟ้านี้เย็นลงจนแน่ใจได้แล้วจึงปล่อยลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะหรือนำไป
ใช้เพื่อการเกษตรต่อไป การใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพก็เหมือนกับพลังงานลมคือต้องขึ้นอยู่กับ
สภาพธรรมชาติด้วย

สำหรับประเทศไทยได้สำรวจขุดเจาะแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพดูหลายแห่งได้ที่อ.สันกำแพง
และอ.ฝาง จ. เชียงใหม่ ปริมาณไอน้ำมีแรงดันมากพอที่จะทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตติดตั้งโรงงานสาธิต
ขนาดกำลังผลิต 300 กิโลวัตต์ขึ้นได้

พลังงานจากความต่างของอุณหภูมิน้ำในมหาสมุทร ( Ocean Thermal Energy Conversion) มวลของน้ำในมหาสมุทรทั้งหมดนั้นได้รับพลังงานจากแสงสว่างไม่เท่ากัน ที่บริเวณพื้นผิว
ของมหาสมุทรส่วนที่แสงแดดส่องลงมาถึงจะมีอุณหภูมิสูงกว่าบริเวณของมหาสมุทรที่อยู่ลึก
ลงไปมากๆจนแสงแดดส่องลงซึ่งจะมีอุณหภูมิต่ำจนเกือบจะเข้าสู่จุดเยือกแข็งความแตกต่าง
ของระหว่างอุณหภูมิสองตำแหน่งในทะเลนี้เองถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการผลิตไฟฟ้าด้วย
ความต่างของอุณหภูมิในมหาสมุทรก็เป็นการใช้พลังงานไอของก๊าซไปผลักดันใบพัดของ
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเช่นเดียวกัน  อย่างไรก็ตามการผลิตไฟฟ้าด้วยความต่างของอุณหภูมินี้
ยังอยู่ในขั้นทดลองเพราะยังมีปัญหาต่างๆเป็นข้อจำกัดอีกมากที่ต้องแก้ไขกันต่อไปเช่น ปัญหาการกัดกร่อนเพราะแอมโมเนียต้องใช้วัสดุที่มาทำเป็นท่อต่างๆด้วยเหล็กเท่านั้นและ
เหล็กก็จะมีปัญหาถูความเค็มของน้ำทะเลกัดกร่อนได้รวดเร็วและปัญหาที่สำคัญก็คือค่าใช้
จ่ายที่สูงและกำลังไฟฟ้าที่ได้ออกมานั้นยังไม่คุ้มค่ากับพลังงานที่ใช้เดินเครื่องเพื่อผลิตไฟฟ้า
แบบนี้เองเสียด้วยซ้ำ จึงทำให้โรงไฟฟ้าพลังงานความต่างของอุณหภูมิน้ำทะเลยังอยู่ในขั้น
ทดลองปฎิบัติงานเท่านั้น พลังงานที่เกิดจากปรากฎการณ์น้ำขึ้นน้ำลง ซึ่งมีกระบวนการผลิต
คล้ายคลึงกับการผลิตไฟฟ้าด้วยเขื่อนกักเก็บน้ำอยู่มากทีเดียวแต่แทนที่จะตั้งเป็นแนวกำแพง
ยักษ์ขวางกั้นเส้นทางน้ำแบบเขื่อน ไฟฟ้าพลังน้ำขึ้น-น้ำลงจะใช้ประโยชน์จากปรากฎการณ์
ธรรมชาติที่เกิดจากแรงดึงดูดระหว่างดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ที่มีผลต่อโลก  สร้างโรงไฟฟ้า
คร่อมทางน้ำที่มีผลกระทบจากน้ำขึ้น-น้ำลงมากๆอย่างเช่น ปากแม่น้ำหรือชายฝั่งทะเล
(ที่ไม่ลึกนัก) สำหรับในประเทศไทยจากการตรวจสอบระดับความสูงของน้ำขึ้น-น้ำลงสูงสุด
และต่ำสุดนั้นยังมีความแตกต่างกันน้อยเกินไปที่จะนำมาผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าได้ พลังงาน
ทางเลือกแบบสุดท้ายที่จะพูดถึงก็คือ พลังงานคลื่น ซึ่งเป็นการเก็บเกี่ยวเอา พลังงานที่ลม
ถ่ายทอดให้กับผิงน้ำในมหาสมุทรเกิดเป็นคลื่นวิ่งเข้าสู่ชายฝั่งและเกาะแก่งต่างๆเครื่องผลิต
ไฟฟ้าพลังงานคลื่นจะถูกออกแบบให้ลอยตัวอยู่บนผิวน้ำบริเวณหน้าอ่าวด้านหน้าที่หันเข้าหา
คลื่น การใช้คลื่นเพื่อผลิตไฟฟ้านั้นถ้าจะให้ได้ผลจะต้องอยู่ในโซนที่มียอดคลื่นเฉลี่ยอยู่ที่ 8 เมตร
ซึ่งบริเวณนั้นต้องมีแรงลมด้วย แต่จากการวัดความสูงของยอดคลื่นสูงสุดในประเทศไทยที่
จังหวัดระนองพบว่า ยอดคลื่นสูงสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 4 เมตรเท่านั้น ซึ่งก็แน่นอนว่าด้วยเทคโนโลยี
การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานคลื่นในปัจจุบันนั้นยังคงไม่สามารถใช้ในบ้านเราให้ผลจริงจังได้

พลังงานทดแทนไม่ใช่พลังงานมาแทน
เราจะใช้พลังงานทางเลือกทั้งหมดนี้ผลิตพลังงานไฟฟ้ารองรับกิจกรรมการใช้ไฟฟ้าในแบบ
ปัจจุบันของประชากรทั่วโลกได้หรือไม่? คำตอบก็คือ ไม่ได้  พลังงานทางเลือกส่วนใหญ่
เหมาะสมที่จะถูกเลือกใช้ในแต่ละชุมชนที่มีสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศเหมาะสมกับ
พลังงานแบบนั้นๆ แต่ถ้าหากว่าเกิดเหตุการณ์ขาดแคลนพลังงานหลักขึ้นมาจริง ๆประชากร
โลกจะดำเนินชีวิตอย่างไร?พลังงานหลักควรจะต้องมาจากพลังงานแสงอาทิตย์กิจกรรมการ
ใช้พลังงานแบบสิ้นเปลืองในปัจจุบันคงจะต้องเปลี่ยนไปวิถภีชีวิตจะต้องเปลี่ยนไปเป็นการ
ใช้พลังงานคุ้มค่ามากที่สุด ม่ว่าเหตุการณ์ในอนาคตจะเป็นอย่างไรแต่ในปัจจุบันเราควรจะใช้
พลังงานที่ลดน้อยลงไปอยู่ทุกวันให้คุ้มค่าใช้พลังงานอย่างประหยัดและใช้ให้คุ้มค่าที่สุด พิจารณาจากการใช้พลังงานทางเลือกเพื่อช่วยทดแทนพลังงานหลักให้ได้ประโยชน์ที่สุด
เพียงเท่านี้ภาวะการใช้พลังงานถึงแม้ว่าเข้าสู่ยุคขาดแคลนคงจะไม่เกิดวิกฤตและมนุษย์
ก็คงจะผ่านบททดสอบว่าด้วยเรื่องพลังงานของธรรมชาติบทนี้ไปได้ด้วยดี
 
 

เกริ่นนำ    โครงการโรงไฟฟ้าบ่อนอก    การจัดแบ่งชั้นคุณภาพหิน   ไฟฟ้ามาจากไหน
โรงไฟฟ้าประจวบฯ : ยกเลิกหรือเดินหน้าต่อ?     พลังงานทางเลือก    เกร็ดความรู้